ต้องยอมรับว่า "โรคเบาหวาน" เมื่อเป็นแล้วจะไม่มีวันรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถดำรงชีวิตให้เหมือนปกติไ้ด้ หากมีวินัยในการใช้ชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี โรคเบาหวานยังคงเป็นโรคยอดฮิตของคนไทย โดยมีสถิติจากสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยที่ระบุว่า ในคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปทุกๆ 100 คน จะมีผู้ป่วยเบาหวานอยู่ 7 คน ความน่ากลัวของโรคเบาหวาน อยู่ที่โรคนี้อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอื่นๆ ได้อีกหลายสิบโรค เราจึงขอนำเสนอ "ความเชื่อและความจริงของโรคเบาหวาน" ซึ่งไม่ว่าจะป่วยแล้ว หรืออยากป้องกันตัวเองไม่ให้ป่วยไปค้นหาคำตอบที่ถูกต้องด้วยกัน เพราะไม่แน่ว่าความเชื่อ (ผิดๆ) ต่อไปนี้อาจเป็นสิ่งที่หลายคนอ่านแล้วต้องบอกว่า “ไม่น่าเชื่อ” ก็เป็นได้

Fact : เนื่องจากโรคนี้มีชื่อว่า “เบาหวาน” ทำให้หลายคนเข้าใจว่า ปัจจัยก่อโรคเกิดจากการกินแป้งหรือน้ำตาลเป็นหลัก แต่นักวิจัยจากโรงเรียนสาธารณสุขฮาร์วาร์ด (Harvard School of Public Health: HSPH) ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการศึกษาวิจัยพบว่า เนื้อสัตว์ใหญ่จำพวกเนื้อแดง (RedMeat) เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู รวมทั้งเนื้อที่ผ่านการปรุงแต่ง เช่น ไส้กรอก เบคอน แฮม และอื่นๆ ก็เป็นตัวการก่อโรคเบาหวานเช่นกัน
จากการศึกษาพบว่า นอกจากแป้งและน้ำตาลแล้ว ไขมันอิ่มตัวซึ่งมีมากในเนื้อสัตว์ใหญ่ กลับเป็นอีกตัวการหนึ่งที่ก่อโ รคเบาหวาน เพราะไขมันอิ่มตัวจะไปยับยั้งให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้น้อยลง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้ช้า และเมื่อน้ำตาลไม่ลด ตับอ่อนจึงต้องผลิตอินซูลินออกมาเพิ่มเกินกว่าปกติ เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ตับอ่อนต้องทำงานหนักเกินไปและเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ จนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เหมือนตอนที่ตับอ่อนยังทำงานเป็นปกติ ซึ่งจะนำไปสู่โรคเบาหวานในที่สุด นอกจากนี้ นายแพทย์เจอรัลด์ เรเวน (Gerald Reaven) แพทย์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกายังให้ข้อมูลที่ตรงกันว่า “คนที่มีไขมันสะสมในร่างกายมาก โดยเฉพาะคนอ้วน ซึ่งมีการสะสมของไขมันในเซลล์มากกว่าคนผอม จะมีโอกาสป่วยเป็นเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ง่าย เนื่องจากไขมันอิ่มตัวเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของอินซูลิน ซึ่งหากร่างกายมีไขมันในเซลล์มาก อินซูลินก็จะยิ่งนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ได้น้อยลง เมื่อนานวันเข้า ร่างกายจึงเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ง่าย อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ป่วยเบาหวานเกิดโรคอื่นๆ ตามมา เช่น อัมพฤกษ์อัมพาต เป็นตะคริวที่เท้า หรือหากมีการติดเชื้อก็จะหายยากและกลายเป็นแผลเน่าจนอาจต้องตัดขา” ความคิดที่ว่า หากเรากินเนื้อสัตว์ใหญ่เต็มที่ แต่ควบคุมการกินแป้งและน้ำตาลให้อยู่ในปริมาณไม่มาก จะไม่มีสิทธิ์เป็นโรคเบาหวาน จึงอาจเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องเต็มร้อยเปอร์เซ็นค่ะ How to Fix : แม้เนื้อสัตว์ใหญ่จะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีแต่การกินอาหารประเภทโปรตีนและไขมันนั้นถือเป็นสิ่งที่ร่างกายเราขาดไม่ได้ ดังนั้น เราจึงควรปรับเปลี่ยนจากเนื้อสัตว์เป็นอาหารประเภทอื่นๆ แทน ได้แก่
• กินโปรตีนจากพืชและปลาเป็นหลัก วอลเตอร์ วิลเลตต์ (Walter Willett) นักโภชนาการชาวอเมริกัน หนึ่งในผู้ดูแลงานวิจัยข้างต้น แนะนำว่า คนที่เป็นเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการกินเนื้อแดง รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อแดงแล้วหันมากินโปรตีนจากแหล่งอื่น เช่น โปรตีนจากเมล็ดธัญพืชหรือโฮลเกรน ถั่ว เต้าหู้ รวมทั้งเนื้อปลาที่มีไขมันต่ำ เพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีนที่จำเป็น โดยไม่ต้องรับไขมันปริมาณมากเข้าไปด้วย • กินไขมันไม่อิ่มตัว ไขมันอิ่มตัว คือปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงเบาหวาน ทางเลี่ยงที่จะทำให้ร่างกายได้รับไขมันโดยไม่ทำร้ายสุขภาพจึงเป็นการเลือกกินไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดไขมันชนิดร้ายในร่างกายได้ เช่น ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ เมล็ดทานตะวัน น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก อะโวคาโด อย่างไรก็ตาม รองศาสตราจารย์ ดร. วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แนะนำว่าถึงเป็นไขมันชนิดดี แต่ก็ไม่ควรกินในปริมาณมากเกินไป เพราะจะเป็นโทษต่อระบบทางเดินอาหาร